The band
Hyukoh’s story
พวกคุณทั้ง 4 คนอายุเท่ากันหมดเลย?
ฮยอก: ใช่ครับ พวกเราทั้งหมดเกิดปี 1993
พวกคุณพบกันได้ยังไง?
ฮยอนเจ: เริ่มแรกเลยพวกเราได้ทำงานด้วยกันให้กับอัลบั้มของโอฮยอกที่ทำขึ้นมาก่อนแล้ว
พวกคุณทั้ง 4 คนอายุเท่ากันหมดเลย?
ฮยอก: ใช่ครับ พวกเราทั้งหมดเกิดปี 1993
พวกคุณพบกันได้ยังไง?
ฮยอนเจ: เริ่มแรกเลยพวกเราได้ทำงานด้วยกันให้กับอัลบั้มของโอฮยอกที่ทำขึ้นมาก่อนแล้ว
และในขณะที่เราทำเพลงกันพวกเราสามคนก็พูดขึ้นว่ามาตั้งวงกันเถอะ
ฮยอก: แต่เดิมอินอูเป็นมือกลองให้กับวงของผม และเขาก็ได้แนะนำผมให้ได้พบกับฮยอนเจที่เป็นมือกีต้าร์
ฮยอก: แต่เดิมอินอูเป็นมือกลองให้กับวงของผม และเขาก็ได้แนะนำผมให้ได้พบกับฮยอนเจที่เป็นมือกีต้าร์
แล้วผมก็ได้รู้จักกับดงกอนที่เป็นมือเบสผ่านเพื่อนๆอีกที
เหตุผลพิเศษที่ทำให้พวกคุณอยากทำวงด้วยกัน?
อินอู: ตอนแรกเลยผมรู้สึกว่านักร้องดูมีเสน่ห์มาก
ฮยอนเจ: ตอนที่ผมได้รับเดโมเพลงครั้งแรก ผมฟังดนตรีและเสียงร้องแล้วพบว่ามันเจ๋งมาก
ดงกอน: ผมเลยคิดว่านี่มันต้องสนุกแน่ๆ
อัลบั้มที่ชื่อว่า ‘20’ มีความหมายอย่างไร?
ฮยอก: ผมชอบเลข 20 ครับ เลยตั้งชื่ออัลบั้มว่า 20 ที่ผมชอบเลขนี้เพราะว่า 20 ก็เหมือนกับอายุที่เป็นช่วงต่อระหว่างวัยรุ่นและอายุที่เริ่มต้นด้วยเลขสอง อย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดทั้งหมดที่คุณทำมันสามารถให้อภัยกันได้
เหตุผลพิเศษที่ทำให้พวกคุณอยากทำวงด้วยกัน?
อินอู: ตอนแรกเลยผมรู้สึกว่านักร้องดูมีเสน่ห์มาก
ฮยอนเจ: ตอนที่ผมได้รับเดโมเพลงครั้งแรก ผมฟังดนตรีและเสียงร้องแล้วพบว่ามันเจ๋งมาก
ดงกอน: ผมเลยคิดว่านี่มันต้องสนุกแน่ๆ
อัลบั้มที่ชื่อว่า ‘20’ มีความหมายอย่างไร?
ฮยอก: ผมชอบเลข 20 ครับ เลยตั้งชื่ออัลบั้มว่า 20 ที่ผมชอบเลขนี้เพราะว่า 20 ก็เหมือนกับอายุที่เป็นช่วงต่อระหว่างวัยรุ่นและอายุที่เริ่มต้นด้วยเลขสอง อย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดทั้งหมดที่คุณทำมันสามารถให้อภัยกันได้
และสำหรับผมเองสิ่งเหล่านั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามีศักยภาพเพื่อเติบโตขึ้น
จากอัลบั้มการเรียงลำดับเพลงตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้ายดูต่อเนื่องกันดีนะ
ฮยอก: พวกเราไม่ได้กำหนดเกณฑ์อะไรเลยครับ แต่แทรคลิสต์เคยกำหนดไว้ตั้งแต่ที่ทำเพลงกันมาแล้ว
ฮยอก: พวกเราไม่ได้กำหนดเกณฑ์อะไรเลยครับ แต่แทรคลิสต์เคยกำหนดไว้ตั้งแต่ที่ทำเพลงกันมาแล้ว
ผมแค่รู้สึกว่าอยากให้เพลง Lonely
เป็นเพลงแรก และเพลง I have no hometown เป็นเพลงสุดท้าย
นอกจากเพลง Wi Ing Wi Ing เนื้อเพลงก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
แสดงว่าเขียนเพลงเป็นภาษาอังกฤษง่ายกว่า?
ฮยอก: ใช่ครับ เพราะเวลาที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีผมรู้สึกว่าอยากจะเขียนให้มันดีจริงๆ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษผมจะสามารถเขียนออกมาได้ง่ายกว่า ในขณะที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีมันทำให้ผมสื่อออกมาได้น้อย
ฮยอก: ใช่ครับ เพราะเวลาที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีผมรู้สึกว่าอยากจะเขียนให้มันดีจริงๆ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษผมจะสามารถเขียนออกมาได้ง่ายกว่า ในขณะที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีมันทำให้ผมสื่อออกมาได้น้อย
แต่ผมก็จะค่อยๆเขียนภาษาเกาหลีให้มากขึ้น ซึ่งเพลงใน EP ต่อไปที่กำลังจะปล่อยออกมาในสิ้นเดือนมกราคมนี้(Panda
Bear) ก็ถูกเขียนไว้เป็นภาษาเกาหลี
แนวเพลงใน EP เป็นแบบไหน?
ฮยอก: ส่วนของอินโทรและเพลง Panda Bear นั้น วันหนึ่งผมได้ค้นคว้าเกี่ยวกับสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์และ
ฮยอก: ส่วนของอินโทรและเพลง Panda Bear นั้น วันหนึ่งผมได้ค้นคว้าเกี่ยวกับสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์และ
หมีแพนด้าก็โผล่ออกมา
ซึ่งผมก็ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมและได้อ่านเจอว่าแพนด้าไม่มีแรงขับทางเพศและความต้องการอาหารกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ขาดแรงจูงใจนี้
และนั่นทำให้พวกเขาไม่อยากจะให้หมีแพนด้าลดจำนวนลง ผมคิดว่านั่นมันน่าสนใจดี
ก็เลยใช้เวลาเขียนเพลงนี้ใน 30 นาที
ซึ่งเนื้อเพลงก็จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ เช่นเดียวกับในกรณีของผม
เมื่อผมเจ็บจากใครสักคน ผมก็จะเริ่มคิดว่า “ฉันมันไม่มีค่าอะไรเลย
ฉันไม่เคยเป็นที่ต้องการ”ผมพยายามที่จะสื่อความสัมพันธ์ของมนุษย์ในจุดนี้ผ่านถ้อยคำของผม
ซึ่งมันทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าหลายๆคนก็รู้สึกแบบเดียวกัน
เวลาที่คุณทำเพลง พวกคุณได้คิดถึงกระแสนิยมมั้ย?
ฮยอนเจ: ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่คิด แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรนัก
บัลลาด, ร็อค, และอีกหลายๆคำที่ผู้คนต่างหามาอธิบายเกี่ยวกับเพลงของวงฮยอกโอ
แล้วพวกคุณคิดว่าเพลงที่คุณทำเป็นแนวไหน?
ดงกอน: พวกเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลักษณะของพวกเราเป็นแบบไหน พวกเราแค่บอกกันว่าจะเลือกทำในแบบเพลงของเรา แต่สุดท้ายพวกเราก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ
ดงกอน: พวกเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลักษณะของพวกเราเป็นแบบไหน พวกเราแค่บอกกันว่าจะเลือกทำในแบบเพลงของเรา แต่สุดท้ายพวกเราก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ
คุณจะบอกว่าในตอนแรกคุณไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไรเลย?
ฮยอนเจ: ใช่ ผมคิดว่าอย่างนั้น
ฮยอก: ผมคิดว่านั่นมันเป็นเหตุผลหลักเลยล่ะ
จริงๆแล้วคุณดูเหมือนพวกฮิปฮอปเหมือนกันนะ
ฮยอก: คุณอาจจะคิดแบบนั้นตั้งแต่ที่เห็นว่าผมโกนหัวสินะ
คุณชอบดนตรีแบบไหน?
ดงกอน: ผมชอบ John Frusciante เขาเป็นสมาชิกวง Red Hot Chili Peppers แต่ผมชอบงานเดี่ยวของเขามากกว่าที่เขาทำกับวงซะอีก
อินอู: ผมชอบ The Weeknd
ฮยอนเจ: ช่วงนี้ผมชอบ Stevie Ray Vaughan
ฮยอก: ผมชอบ John Mayer แต่ถ้าชอบที่สุดก็เป็น Erlend Øye จาก Kings of Convenience
เริ่มทำดนตรีกันตั้งแต่เมื่อไหร่?.
ดงกอน: ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น
ดงกอน: ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น
ฮยอนเจ: ผมก็เหมือนกัน
ฮยอก: ตั้งแต่มัธยมต้น ปีที่ 3ครับ ตอนนั้นแม่แฟนผมได้ให้คำแนะนำและช่วยให้ผมเริ่มทำงานดนตรี
ฮยอก: ตั้งแต่มัธยมต้น ปีที่ 3ครับ ตอนนั้นแม่แฟนผมได้ให้คำแนะนำและช่วยให้ผมเริ่มทำงานดนตรี
จนกระทั่งผมไม่ได้มีความตั้งใจที่อยากจะทำเพลงแบบจริงจัง
แต่เธอยังเชื่อมันในตัวผมและเป็นแรงบันดาลใจ
ให้ผมได้ทำดนตรีต่อไป
อินอู: ผมเริ่มทำดนตรีตั้งแต่สมัยประถม
ฮยอนเจ: เพื่อนคนนี้ทำนู่นทำนี่เยอะจริงๆครับ เขาเล่นเปียโนตั้งแต่เด็ก และเขาก็ยังสามารถเล่นฟรุ๊ต
อินอู: ผมเริ่มทำดนตรีตั้งแต่สมัยประถม
ฮยอนเจ: เพื่อนคนนี้ทำนู่นทำนี่เยอะจริงๆครับ เขาเล่นเปียโนตั้งแต่เด็ก และเขาก็ยังสามารถเล่นฟรุ๊ต
และไวโอลินได้ดีอีกด้วย
อินอู: ตอนสมัยประถมผมทำทุกอย่างครับยกเว้นเรียน ผมเคยเรียนสเก็ตตอนอยู่อนุบาลจนได้มาเป็นนักกีฬาสเก็ต แต่พอขาผมหักผมก็เลยเปลี่ยนมาทางดนตรีแทน
อินอู: ตอนสมัยประถมผมทำทุกอย่างครับยกเว้นเรียน ผมเคยเรียนสเก็ตตอนอยู่อนุบาลจนได้มาเป็นนักกีฬาสเก็ต แต่พอขาผมหักผมก็เลยเปลี่ยนมาทางดนตรีแทน
นอกจากดนตรี ล่าสุดมีอะไรที่ชอบบ้างมั้ย?
ฮยอก: เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ไป Brooklyn, New York เพื่อถ่ายทำเอ็มวี สถานที่ที่พวกเราอยู่เต็มไปด้วยต้นไม้ทั้งนั้น ผมเอาแต่ดูพวกต้นไม้และพอกลับบ้านผมก็ได้ซื้อต้นหญ้า ต้นปาล์มและพวกไม้เถามาด้วย ตอนนี้ผมกำลังดำเนินการเอาต้นมะพร้าวมาที่บ้านอยู่ครับ
ฮยอนเจ: ผมชอบหมาและแมว แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้เลย ผมเลยได้แต่ดูรูปทุกๆวัน แล้วก็เล่นกับแฟนของผมเป็นไง?
ดงกอน: ช่วงนี้ผมไม่ได้ชอบหรือติดอะไรเป็นพิเศษ แต่เมื่อเดือนที่แล้วผมได้กินเนื้อแกะย่างที่เป็นแบบเสียบกับไม้แล้วก็กินแต่อันนั้นอยู่อย่างเดียวจนตอนนี้ผมเบื่อมันแล้ว ตอนนี้กะว่าจะเริ่มมองหาอะไรใหม่ๆดู
อินอู: ก็เหมือนเดิมครับ ผมเลี้ยงลูกหมาไว้ตัวนึงที่บ้านครับชื่อโกโก้
มีอะไรที่สมาชิกในวงชอบเหมือนกันมั้ย?
ฮยอนเจ: พิซซ่า
ดงกอน: แกล้งโอฮยอก
ฮยอก: อันนั้นไม่นับสิ ฉันไม่ได้แกล้งตัวเองซะหน่อย!
ฮยอนเจ: พิซซ่า
ดงกอน: แกล้งโอฮยอก
ฮยอก: อันนั้นไม่นับสิ ฉันไม่ได้แกล้งตัวเองซะหน่อย!
ได้ยินมาว่ายังไม่มีใครในนี้ที่เข้าเกณฑ์ทหารเลย ได้วางแผนว่าจะเริ่มเข้าตอนไหนมั้ย?
อินอู: พวกเราจะรีบเข้าทันทีที่เป็นไปได้ มันคงจะดีนะถ้าพวกเราเข้าไปพร้อมกันทั้งหมด ใช่มั้ย?
ฮยอก: ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าพวกเราได้เข้าและกลับมาในเวลาเดียวกัน
ดูเหมือนว่าพวกเราจะเห็นวงนี้กันอีกนานเลย
ฮยอก: ใช่แล้ว แม้ว่าเราจะแก่แต่เราจะเดินไปด้วยกัน
อินอู: คุณตอบตัวเองอยู่แล้ว พวกเราไม่รู้เลยว่าจะจบกันได้ยังไง ฮ่าๆ
ฮยอก: ผมคิดว่ามันคงดีนะถ้าผมได้สิ้นสุดที่ตัวเอง โดดเดี่ยวตลอดไป
ฮยอนเจ: ความจริงแล้วผมก็เห็นว่าพวกเราจะไปด้วยกันได้นานๆเหมือนกัน
ฮยอก: ทำไมพวกเราต้องตอบแค่แบบเดียวล่ะ?
อินอู: *พยักหน้า*
ดงกอน: ผมอยากให้พวกเราอยู่ด้วยกันนานๆครับ จริงจังเลย
ฮยอก: ใช่แล้ว แม้ว่าเราจะแก่แต่เราจะเดินไปด้วยกัน
อินอู: คุณตอบตัวเองอยู่แล้ว พวกเราไม่รู้เลยว่าจะจบกันได้ยังไง ฮ่าๆ
ฮยอก: ผมคิดว่ามันคงดีนะถ้าผมได้สิ้นสุดที่ตัวเอง โดดเดี่ยวตลอดไป
ฮยอนเจ: ความจริงแล้วผมก็เห็นว่าพวกเราจะไปด้วยกันได้นานๆเหมือนกัน
ฮยอก: ทำไมพวกเราต้องตอบแค่แบบเดียวล่ะ?
อินอู: *พยักหน้า*
ดงกอน: ผมอยากให้พวกเราอยู่ด้วยกันนานๆครับ จริงจังเลย
ตอนแรกคุณไม่ได้อยากมีชื่อเสียง?
ฮยอก: ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ได้ต้องการที่จะมีชื่อเสียง แต่ผมคิดว่าพวกเราจะเป็นคนดัง
ดงกอน: ยังไงล่ะ? ให้เราลงเอยกันบนหน้าหนังสือพิมพ์อ่ะนะ? ฮ่าๆๆๆ
Source: Naver.com
Eng Translation: Hyukoh Updates
Thai Translation: Coquelicot68
**Please take out with full credits and link back to the original post**
ฮยอก: ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ได้ต้องการที่จะมีชื่อเสียง แต่ผมคิดว่าพวกเราจะเป็นคนดัง
ดงกอน: ยังไงล่ะ? ให้เราลงเอยกันบนหน้าหนังสือพิมพ์อ่ะนะ? ฮ่าๆๆๆ
Source: Naver.com
Eng Translation: Hyukoh Updates
Thai Translation: Coquelicot68
**Please take out with full credits and link back to the original post**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น